Article





ความจริงการศึกษาไทย

เลาะเลียบคลองผดุงฯ
ตุลย์ ณ ราชดำเนิน 
tulacom@gmail.com

มีผลวิจัยหลายสำนักระบุตรงกันว่า หลังการปฏิรูปการศึกษา
ที่มีการทดสอบทางการศึกษาเข้ามาใช้แล้ว พบว่าการศึกษาไทย
ยิ่งตกตํ่าลงกว่า 10 ปีที่ผ่านมา นโยบายประชานิยม
ไม่ได้ช่วยให้เกิดคุณภาพ แค่เป็นการหาเสียงของนักการเมืองเท่านั้น

สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน
นำผลการวิจัยเรื่องนโยบายเรียนดีเรียนฟรี 15 ปี
อย่างมีคุณภาพ ที่มอบหมายให้นาวาตรีหญิงดร.กิตติยา เอ็ฟฟานส
นักวิชาการอิสระ เป็นผู้ดำเนินการวิจัย พบว่า

นโยบายเรียนดีเรียนฟรี 15 ปี
อย่างมีคุณภาพดังกล่าว ไม่ฟรีจริง เรียนไม่ดี แถมด้อยคุณภาพ

ซึ่งสอดคล้องทั้งฝ่ายครูและผู้ปกครองเห็นว่า
นโยบายนี้ไม่ทำให้เด็กเรียนดีขึ้น และไม่ได้ลดภาระค่าใช้จ่าย
ของผู้ปกครองจริงเพราะยังต้องจ่ายเพิ่มตามรายการที่ร.ร.ขอรับการสนับสนุนอีก

ไล่มาถึงผลการประเมินจากสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ
พบคะแนนวิชาหลักของนักเรียนทั้งสามช่วงชั้น
มีแนวโน้มลดลงอย่างเป็นระบบ
อีกทั้งคะแนนของนักเรียนทั้ง 3 ช่วงชั้นและทุกวิชามีค่าเฉลี่ยตํ่ากว่าครึ่ง

ขณะที่ผลการจัดอันดับด้านการศึกษา
ถึงขีดความสามารถในการแข่งขันของไทย
โดยสถาบันไอเอ็มดี อินเตอร์เนชั่นแนล
พบว่าคุณภาพผู้เรียนไม่ดีขึ้น มีแนวโน้มลดตํ่าลงหลังจากที่ใช้นโยบายนี้

มีเพียงผลการประเมินจากกระทรวงศึกษาธิการของไทย


เท่านั้นที่ชี้ว่าผู้เรียนมีคุณภาพที่ดีขึ้น 7 ใน 8 กลุ่มสาระวิชา

ตามด้วยสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือทีดีอาร์ไอ
เสนอให้ยุบสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.)
เนื่องจากมีผลการประเมินสถานศึกษาผิดพลาดที่ระบุว่าคุณภาพดีขึ้น
ทั้งๆ สภาพความจริงสวนทางกับคุณภาพของนักเรียนที่ตกตํ่าลงทุกปี

ยํ้านักแน่นอีกด้วยว่า การประเมินที่ผิดพลาดจะทำให้
กระทรวงศึกษาฯ นำเด็กไปสู่ความล้มเหลวในการเรียน และนำประเทศไปสู่วิกฤต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น